อันดับแรกเราต้องเข้าใจเรื่องของบุญและบาปให้ถ่องแท้ก่อนนะครับ บุญคืออะไร บาปคืออะไร อะไรคือบุญ อะไรคือบาป สรุปรวมง่าย ๆ บุญก็คือการกระทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือนร้อน ตนเองเดือดร้อน ส่วนบาปก็ตรงกันข้ามครับง่าย ๆ เท่านี้เอง แต่อย่าคิดแบบพ่อศรีธนนชัย นะครับ บุญคือไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน ส่วนบาปคือเดือดร้อนทั้งนั้น ช้าหรือเร็วเท่านั้น ไม่บุญไม่บาปคือไม่ทำอะไร ว่างการงาน แล้วไปนิพพานได้ ไม่ใช่นะครับ วัว ควายก็ไม่ได้ทำอะไร ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตขนาดยุงซักตัวมันก็ไม่เคยตบ ปัดอย่างเดียว ทำนาช่วยคนตายแล้วก็ยังหาสุคติยากเลย นี่ก็คุยกันแบบสบาย ๆ ทำง่าย ปฏิบัติง่าย ไม่เอาลึกลับซับซ้อน กำลังถึงเดี๋ยวมันมาเอง พวกอภิญญา สมาบัติอะไรพวกนี้ ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเขาก็นับให้ทั้งนั้นนะอย่าลืม เขาจดไว้หมด เดินหนึ่งก้าวแล้วหยุด หรือ จาม ก็ตามนับเป็นส่วนบุญนะ(ถ้าเรารู้ตัวนะ) สมมุติเรากำลังคุยเพลิน ๆ อยู่ ฮัดเช้ย!! ทีหนึ่งสติก็จะมารวมตัวกับร่างกาย กลับมารู้เนื้อรู้ตัวอีกครั้ง รัก โลภ โกรธ หลง หายหมดใช่ม๊ะ นี่แหละเขาเรียกว่ามนุษย์สมบัติ สมมุติว่าจับพลัดจับถูตายซะอย่างงั้น ตายลงไปนรก ท่านยมบาลถามว่าวิญญาณดวงนี้เคยทำบุญอะไรหรือไม่
สมมุติต่อเอาว่าเราเลวบริสุทธิ์เลยละกันทำมันเหมือนชาวบ้านเขากินเหล้าตามงาน พนันบ้าง ผู้หญิงก็เอา เรียกว่าศีล5 ฆ่ามันทุกตัว บุญอื่นก็คิดไม่ออกแต่จำได้ว่าเคยอ่านบทความนี้ ตั้งแต่นั้นมาจามเมื่อไรก็จำได้ว่า เราได้ทำบุญคือสร้างสติไว้กับตัว คือ จาม เสร็จนึกถึงว่านี่เป็นบุญการรักษาสติทุกครั้ง จามเมื่อไรก็นึกได้จำได้อย่างนี้เรื่อยๆ ท่านว่ายมบาลท่านจะคิดอย่างไรกับผู้ที่รักษาสติตามกาล แม้เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ นี่อานิสง ต่ำ ๆ ก็เป็นเทวดาหางแถวใช่ม๊ะ ง่ายม๊ะทำบุญขอให้รู้เถอะ ไม่ใช่เกิดมางง ๆ แล้วก็ลงนรกไป นี่สำคัญอย่าประมาทนะเทวดาหางแถวนี่ ดีกว่าเป็นหัวหน้าผีเปรตเยอะ เอาง่าย ๆ สมมุติ มหาโจรผู้ยิ่งใหญ่มาเจอะกับพลตำรวจจบใหม่ เอาว่าใครจะวิ่ง อะลองคิดดูศักดิ์ศรีมันต่างกัน เอ้าจำ ๆ กันไว้ของดี แต่อย่างไปสนใจมันมากนะ ไม่ต้องไปตั้งอะไรนะ จามวันละเท่านั้น เท่านี้ ไม่ต้องเลยนะปล่อยตามธรรมชาติจามเมื่อไรก็เรื่องของมัน เมื่อจามให้รู้ว่าเป็นบุญก็ใช้ได้เอาแค่นี้ไม่ต้องไปแต่งเติมอะไร แต่ถ้าอยากได้บุญเยอะกว่าเดิมก็นับ ก็นึกถึง สติก็จะอยู่กับตัวมากขึ้นตามลำดับเอง หรือว่าถ้ารู้สึกว่าบุญมันยังน้อยไปก็เพิ่ม ไอ หาว ฯ จะได้มีบุญสะสมไว้มากๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะเล่าเรื่องพวกนี่หรอกนะ จามเจือมอะไรนี่ คงเป็นพระท่านดลใจให้เล่าไว้มั๊ง เอาไว้หนีนรกสำหรับพวกขี้เกียจนะ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ตกนรกนะ ศีล5 พี่เล่นฆ่าทุกตัว หมดบุญเมื่อไรก็ลงเมื่อนั้น ต้องไปต่อเอาเองแหละ ทีนี้มาว่ากันตรงหัวข้อหน่อยคือทำบุญอย่างไรให้ได้บุญสูงสุด ก็จะขออ้างคำพระท่านว่านะ คือ
ทำบุญกับบุคคล ได้บุญน้อยกว่าทำบุญกับพระสงฆ์
ทำบุญกับพระสงฆ์ ได้บุญน้อยกว่าทำบุญกับพระอริยสงฆ์
ทำบุญกับพระอริยสงฆ์ ได้บุญน้อยกว่าทำบุญกับพระอัครสาวก
ทำบุญกับพระอัครสาวก ได้บุญน้อยกว่าทำบุญกับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า
ทำบุญกับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ได้บุญน้อยกว่าทำบุญกับพระพุทธเจ้า
ทำบุญกับพระพุทธเจ้า ได้บุญน้อยกว่าทำบุญกับพระเป็นสังฆทาน.

ลืมคุยเรื่องดอกไม้สำหรับไหว้พระ ทำบุญ มีพระท่านเคยคุยเคยเล่าไว้ ผมก็จำไม่ค่อยได้ทั้งหมด ท่านแบ่งเป็นสี สีอะไรได้บุญมากสุด ก็เรียง ๆ กันไปนั่นแหละ พอดีผมจำไม่ได้ จำได้แต่ที่ผมชอบใช้คือสรุปยอดเลย ดอกไม้สีขาว และมีกลิ่นหอม ได้บุญมากสุด ส่วนใครชอบดอกอะไรก็แล้วแต่ครับ อย่างคติมหายาน นิยมดอกบัวเพราะเป็นแทนองค์พระโพธิสัตว์ ไอ้เรื่องนี้ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องกะเขาหลอก แต่ก็คิดเอาตามประสาเรานี่แหละ คนไหนมีกลิ่นตัวหอมก็ทำให้มีความรู้สึกดี ใช่มะ ยิ่งขาวด้วยแล้วก็ อือ สุดยอด!
คราวหน้าจะเล่าวิธีกินให้ได้บุญสูงสุด กินเจ กินมังสวิรัส หรือกินอะไรถึงได้บุญ ไว้อารมณ์ดีจะเล่าให้ฟัง.
กลับ