FENG SHUI

การดูดวงและฮวงจุ้ย (AUGUR,FENGSHUI)

การกำเนิดและการทำลายของธาตุทั้งห้า

ธาตุไฟ ให้กำเนิด ธาตุดิน และทำลาย ธาตุทอง

ธาตุดิน ให้กำเนิด ธาตุทอง และทำลาย ธาตุน้ำ

ธาตุทอง ให้กำเนิด ธาตุน้ำ และทำลาย ธาตุไม้

ธาตุน้ำ ให้กำเนิด ธาตุไม้ และทำลาย ธาตุไฟ

ธาตุไม้ ให้กำเนิด ธาตุไฟ และทำลาย ธาตุดิน

ความหมายของธาตุทั้งห้า

ธาตุน้ำ เกี่ยวกับทิศเหนือ การสื่อสาร ความปลอดภัยและสัญชาตญาณ

ธาตุไม้ เกี่ยวกับทิศตะวันออก ธรรมชาติ การสร้างสรรค์และการเจริญเติบโต

ธาตุไฟ เกี่ยวกับทิศใต้ ความทะเยอทะยาน ความฉลาดและการเคลื่อนไหว

ธาตุทอง เกี่ยวข้องกับทิศตะวันตก ประโยชน์และการพึ่งพาได้ โลหะ เหล็ก

ธาตุดิน เป็นศูนย์กลางและความสมดุล เชื่อถือได้ การก่อตั้ง อัญมณีต่าง ๆ

          คุณสมบัติพื้นฐานถูกกำหนดโดยธาตุทั้งห้าเสมอ ธาตุน้ำ ธาตุไม้ ธาตุไฟ ธาตุดิน และธาตุทอง นักษัตรแต่ละตัวถูกควบคุมด้วยหยินหรือหยาง และโดยธาตุใดธาตุหนึ่ง นักษัตรต่างๆถุกแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ ธาตุน้ำได้แก่ ชวด กุน ธาตุไม้ได้แก่ ขาล เถาะ ธาตุไฟได้แก่ มะเส็ง มะเมีย ธาตุดินได้แก่ ฉลู มะโรง มะแม จอ ธาตุทองได้แก่ วอก ระกา

พฤหัสจักร วงจรธาตุ 60 ปี

          เมื่อมีธาตุทั้งห้าอยู่ในระบบโหราศาสตร์ พวกมันทำให้เกิดเพิ่มขึ้นเป็นสัตว์ 60 ตัว เรียงตามกัน หมุนเวียนไปผ่านวงรอบ 60 ปี ครึ่งหนึ่งเป็นหยินและอีกครึ่งเป็นหยางวางสลับกันไปมา วงรอบ 60 ปี มีความสำคัญมากเพราะมันทำให้แต่ละปีมีความพิเศษและมีความเฉพาะตัวแตกต่างกันขึ้นมา คุณลักษณะตามนักษัตร 12 นักษัตรจะแยกไปตามธาตุทั้งห้า และมีแยกละเอียดย่อยลงไปอีกหลายชั้น จึงทำให้มีลักษณะเฉพาะตามลักษณะนั้นด้วย เช่น ถ้าคุณเกิดธาตุดินหยางปีนักษัตรขาล ลักษณะและชีวิตจะแตกต่างจากคนที่เกิดธาตุน้ำหยางปีนักษัตรขาล หากเพิ่มมิติ 12 เดือนของปีรวมทั้ง 12 ส่วนของวัน ซึ่งมีผลต่อโหราศาสตร์ คุณจะเห็นได้ว่า มันจะบอกความเป็นไปได้ถึง 8,640 ของโหราศาสตร์ (5 ธาตุ x 12 นักษัตร x 12 เดือน x 12 ส่วนของวันและยังสามารถแยกย่อยลงเป็นชั่วโมง นาที และวินาที) ทำให้มีความละเอียดแม่นยำขึ้นอีก

เทวดานำชีวิต

           ในการคำนวนตามศาสตร์หมากรุกจีน จะมีความละเอียดแม่นยำกว่าในหลาย ๆ ศาสตร์ ก็ตรงที่มีเทวดานำชีวิต ในการคำนวณอ่านดวงชะตานั้นหมอดูดวงจีนส่วนใหญ่จะหาได้แค่เพียง ปี เดือน วัน และเวลาเกิดเท่านั้น รวมเป็น 8 ตัว สี่ 4 แถว หรือก็คือตำรา " โป๊ยยี่สี่เถียว " แต่ก็ไม่สามารถคำนวนหาเทวดาได้ ก็พอที่จะนำมาทำนายดวงชะตาได้บ้าง เพียงแต่ไม่สามารถรู้ถึงรายละเอียดของดวงนั้น ๆ รวมทั้งวิธีแก้ไขที่แท้จริงในดวงได้ ก็เลยต้องพึ่งทางพระบ้าง ไสยศาสตร์บ้าง และก็พาเสียค่ายกครู ค่าต่อชะตา โดยเปล่าประโยชน์ ทำให้มีการหลอกลวงต้มตุ๋นกันเกิดขึ้น

          ส่วนวิชาหมากรุกจีนนี้สามารถคำนวนหาเทวดาที่กำกับดูแลดวงชะตาอยู่ คือ เทวดาเป็นผู้แนะนำว่าวิถีชีวิต การกระทำ (การงาน การเรียน คู่ครอง ทรัพย์ ฯ) ปัจจุบันนั้น ทำไปแล้วดีกับเจ้าชะตาหรือไม่ ถ้าดีแล้วจะดีขนาดไหน ไม่ดีแล้วจะไม่ดียังไง สามารถบอกวิธีแก้ไขต่างๆ อาทิเช่น เทวดาไปชงกับตำแหน่งทรัพย์ในดวงชะตา(ไม่ดีกับทรัพย์) ก็จะแสดงว่าจะมีทรัพย์ได้ยากหรือว่ามีมากไม่ได้ ทำให้เจ้าชะตาเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ส่วนวิธีแก้ไขเมื่อเทวดาชงทรัพย์ ก็ต้องแก้ด้วยการไม่พกเงินไว้กับตัวมาก หรือฝากไว้กับธนาคารอย่างนี้เป็นต้น แต่ก็ต้องดูตำแหน่ง อื่น ๆ ประกอบด้วย

           แล้วเทวดามาจากไหน ทำไมไม่ช่วยเหลือเรา แล้วถ้าไม่ดีจะแก้ได้หรือไม่ ก็ต้องตอบที่ละคำถามที่ว่าเทวดามาจากไหนก็ตอบว่ามาจาก วัน เดือน ปี และเวลาเกิดเราเป็นตัวกำหนด แล้วทำไมเทวดาไม่ช่วยเราก็ต้องบอกว่าเทวดาไม่ได้เลวร้ายกับใครทั้งนั้น เพราะ เทวดาเป็นผู้ดูแลดวงหรือกรรมของเราเท่านั้นเทวดาไม่ได้ฆ่า หรือทำลายใครเพียงแค่จะสุขสมบูรณ์เต็มที่ไม่ได้เท่านั้น เช่น เทวดาเป็นอริกับคู่ครองก็แสดงว่าคนๆ นี้ มีคู่ยาก มีก็อยู่ไม่นาน หรือต้องปกปิดซ่อนเร้น ทำนองนี้ แต่ถ้าเทวดาเป็นมิตรกับตำแหน่งคู่ ก็แสดงว่าคนนี้มีคู่มาก มาไม่ขาด อยู่กันยืด สรุปก็คือถ้าเทวดาเป็นมิตรกับตำแหน่งไหนก็จะส่งเสริมตำแหน่งนั้นให้ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าเทวดาเป็นอริกับตำแหน่งไหนก็เหมือนคนรำคาญกันมาให้เห็นหน้าสักพักก็พยามไล่หนี (มันจะซวยตรงเทวดารำคาญทรัพย์นี่แหละ มาอยู่ในมือยังไม่ทันอุ่นมีเรื่องให้ใช้หมดไปเรื่อย) ส่วนถ้าไม่ดีจะแก้ได้ไหม ก็ตอบไปว่า "ได้" ส่วนวิธีแก้นั้นก็แล้วแต่อาการหล่ะ ซึ่งแต่ละคนแต่ละท่านก็ไม่เหมือนกัน สุดท้ายนี้ท่านอย่าไปรังเกียจเทวดาถ้าเทวดาเป็นอริกับตำแหน่งไหนเพราะมันเป็นเรื่องของกรรมเราทำมา ไปว่ากันไม่ได้แต่มีวิธีแก้ไขได้ แก้ถูกแก้ตรงนี่เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีกันไม่รู้เรื่องได้เลยนะ แล้วจะหาว่าไม่เตือน

ศาสตร์หมากรุกจีน

          เป็นศาสตร์การพยากรณ์เก่าแก่ตั้งแต่เมื่อ 5,000 ปีก่อนในประเทศจีน เป็นการทำนายที่ใช้ข้อมูลอ้างอิงจากตำราภาษาจีน นำวันเดือนปีเกิด และเวลาเกิดของผู้รับการพยากรณ์แปลเป็นธาตุทั้ง 5 คือ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง โดยแต่ละธาตุได้แปลรหัสให้เป็นสีประจำธาตุ นำมาใช้เป็นสัญลักษณ์แทนตัวหมากรุก เพื่อนำมาใช้ในการทำนายดวงชะตา 5 แถว ๆ ละ 2 ตัว ซึ่งตัวเลขเพียงแค่ 2 หลักในแต่ละแถวนั้นจะสามารถตีความเป็นคำทำนายได้ละเอียดมากถึง 800 ประการ สามารถตอบคำถามครอบคลุมทุก ๆ ด้าน เศรษฐกิจ การเงิน การงาน คู่ครอง ความรัก และอื่น ๆ จิปาถะ " การดูดวงแบบนี้เมื่อวางหมากรุกแล้วจะสามารถล่วงรู้ดวงกรรมได้เลยทันที " เป็นการเปิดกรรมแก้กรรมอย่างชัดเจน เมื่อรู้ชะตากรรมแล้วก็จะได้พัฒนา ปรับปรุงแก้ไขดวงได้ การดูแบบนี้วิธีแก้ไขจะไม่มีไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง จะแก้จากพื้นดวงชะตาเราล้วน ๆ ซึ่งแต่ละคนย่อมมีข้อดี ข้อด้อย ต่างกันไป บางท่านเกิดมาร่ำรวยแต่ขาดทายาทสืบสกุล บางท่านเกิดมาหาเงินหาทรัพย์คล่องร่ำรวยแต่กลับเจ็บป่วยมีโรครุมเล้า บางท่านทำให้ตายชีวิตก็กลับไม่ดีขึ้น อะไรเป็นตัวฉุด อะไรเป็นเหตุแห่งการสูญเสีย หาได้มาทั้งชีวิตล้มคลืนลงในข้ามคืน ฯ เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งวิชาหมากรุกนี้สามารถหาเหตุ และวิธีแก้ไขเหตุที่เกิดหรือยังไม่เกิดขึ้นนี้ได้ ถ้าเป็นเหตุในทางดีก็จะดีขึ้นเป็นร้อยเท่าพันเท่า ถ้าเป็นเหตุในทางร้ายก็จะสามารถทำให้ทุเลาเบาบางหรือหมดไปได้และพลิกกลับจากร้ายกลายเป็นดีได้ ถ้าทำตามวิธีที่อาจารย์แนะนำส่วนใหญ่ไม่เกิน 3-6 เดือนเห็นผล

          ในศาสตร์หมากรุกจีนนี้สามารถอธิบายข้อดีข้อเสียในดวงนั้นๆ และยังสามารถบอกวิธีแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งไสยศาสตร์ใดๆ ไม่ต้องไปไหว้พระไหว้เจ้าที่ไหน หรือต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ให้กับอาจารย์คนนั้น คนนี้ เพราะศาสตร์หมากรุกจีนนี้จะแก้ไขจากระบบธาตุในดวงของคุณเอง และจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก บางท่านก็พ้นจากควาลำบากยากจน บางท่านสามารถเป็นใหญ่ บางท่านสามารถร่ำรวยได้อย่างมหาศาล
     
          อ้อ คนเราหลายต่อหลายคนมักจะดูหมิ่นอาชีพหมอดู ถ้าดีจริงแม่นจริงทำไมไม่ทำให้ตัวเองรวยก่อน ดีก่อนแล้วค่อยไปช่วย ไปแก้ให้คนอื่น ก็ขอตอบไว้นะที่นี้เลยครับจะได้เข้าใจสัจจะธรรมของชีวิตหน่อย ก็คือ คนเรามีกรรมเป็นตัวกำหนด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ และการกระทำของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อย่างหมอดูเขาก็แก้ดวง แก้กรรมของเขาแล้ว เขาเรียกว่าที่สุดมันไม่เท่ากันบางคนถ้ายังไม่ได้แก้ดวงสูงสุดของชีวิตอาจเป็นได้แค่ หัวหน้างานเงินเดือน สามสี่หมื่น ถ้าเมื่อแก้แล้วอาจเพิ่มเป็น สามสี่แสนต่อเดือนหรือมากกว่านั้นก็เป็นได้ อย่างคำที่ว่า เงินล้านแรกนะหาได้ยาก แต่ล้านต่อไป ง่ายแล้ว  ใช่ม๊ะ เมื่อมีทุน ความคิดมันก็บังเกิด เงินมันเหลือจะเอาไปทำอะไรดี ซื้อที่ดินทิ้งไว้ ทำหอพัก บ้านเช่า ซื้อทองคำ ซื้อพันธบัตร อีกเยอะแยะ นี่แหละชีวิตคนเรา แต่พวกเงินเดือนชนเดือนจะมีเวลาเอาสมองไหนมาคิดเพราะชีวิตก็ยังโดนบีบรัดอยู่ ลองถามตัวท่านเองทำงานมากี่ปีมีเงินเก็บเท่าไร หมอเขามีไว้รักษาคน หมอเขาก็ต้องรู้ว่าผู้ที่มาหาเป็นโรคใด จะใช้วิธีใดรักษา อย่ามาถามว่าหมอป่วยไหม แล้วรักษาหรือยัง นี่เขาเรียกว่าพวกโลกแคบใจแคบ มหากษัตริย์ก็ยังมีโหรประจำราชสำนัก ลองดูประวัติศาสตร์ก็ได้กษัตริย์กี่ยุคกี่สมัยทั่วโลก เขายังมีโหรประจำตัวของเขาเอง เพราะอะไรก็เพราะแต่ละก้าวของเขาสำคัญพลาดนิด ถึงกับล้มคลืนเสียทั้งเมือง เสียทั้งทรัพย์ ทั้งชีวิต วงศ์ตระกูลก็ยังมี พระพุทธเจ้าบอกว่า "อย่าเชื่อที่อาตมาพูด แต่จงทำเพื่อให้เห็นอย่างพระองค์ก่อนถึงค่อยเชื่อ" อย่างหมอดูนี่ก็เหมือนกันลองดู ลองทำดูก่อน ค่อยเชื่อ เสียเงินให้หมอดูแค่นี้ไม่ทำให้ชีวิตท่านทั้งหลายล้มละลายได้หรอก ถ้าเจอหมอดี ๆ อาจพลิกชีวิตจากดำเป็นขาวได้  แต่ก็ต้องมีวิจารณญาณ ปัญญาหน่อย ค่อยเชื่อถามอดีตก่อน ถามปัญหาก่อน ค่อยคุยเรื่องอนาคตกันให้มีหลักประกันว่าแม่นชัว.

สำนักวิชาฮวงจุ้ย หลักใหญ่ 3 สาย

1. ฮวงจุ้ยสำนักรูปลักษณ์
2. ฮวงจุ้ยสำนักวางผัง
3. ฮวงจุ้ยสำนักทิศทาง

1. ฮวงจุ้ยสำนักรูปลักษณ์  ในการดูฮวงจุ้ยสายรูปลักษณ์นี้จะเน้นการดูลักษณะขององค์ประกอบในฮวงจุ้ย แล้วแปลตามความหมายของดาว รูปลักษณ์ในที่นี้ก็คือ ลักษณะโดยรวมของฮวงจุ้ย เช่น โต๊ะตัวนี้ตั้งตรงนี้ดีไหม ถ้าแปลเป็นดาวให้คุณก็แสดงว่าดี ถ้าแปลแล้วให้โทษก็ต้องปรับเปลี่ยน แก้ไข เป็นการดูในประเภท Accessories อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ รูปภาพ หิ้งพระ ตู้ โต๊ะ เตียง ประมาณนี้
2. ฮวงจุ้ยสำนักวางผัง  ในการดูฮวงจุ้ยแบบวางผังนี้ก็มีวิธีการโดยการวางแบบแปลนตามตำราโบราณ ขวาเสือ ซ้ายมังกร หน้าหงส์ หลังเต่า เป็นภาพรวมถ้าจะดูเฉพาะส่วนเช่นในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ฯ ก็จะใช้หลักนี้ในการอ่านฮวงจุ้ย ส่วนการแปลความหมายแต่ละห้อง แต่ละทางก็มีความหมายไม่เหมือนกันแต่หลักการวางเหมือนกัน
3. ฮวงจุ้ยสำนักทิศทาง  อันนี้ต้องใช้ความชำนาญในการดูนิดหนึ่ง ในการดูฮวงจุ้ยแบบทิศทางนี้ ต้องใช้ปีเกิดของเจ้าบ้านมาเป็นหลักในการคำนวนเพื่อหาทิศในการปรับเปลี่ยน สมมุติว่าคำนวนแล้วหน้าบ้านควรหันไปทางทิศใต้ แต่บ้านจริง ๆ หน้าบ้านหันไปทางทิศเหนือ ก็เอาทิศทั้งสองมาเทียบกันแล้วหาข้อดีข้อเสีย ทิศไหนดี ตำแหน่งไหนเสีย ก็แก้กันไป ในการดูฮวงจุ้ยของสำนักทิศทางนี้จะมีความแม่นยำกว่า 2 สำนักแรก เพราะมีการวางปีเกิดของเจ้าบ้านเป็นเกณฑ์ในการวางทิศ

            ไม่ทราบใครไปเจออาจารย์สำนักที่กล่าวมานี้แก้ฮวงจุ้ยให้แล้วบ้าง  พอเห็นรูปแบบของการดูฮวงจุ้ยคร่าว ๆ แล้วใช่ไหมครับ 2 สำนักแรกนี้มีการทำเป็นหนังสือออกมาขายมากมายตามท้องตลาดทั่วไปสามารถหาอ่านได้ ส่วนของสำนักทิศทางนั้นต้องมีการเรียนศึกษาจริงจังกว่าครับถึงจะเข้าใจลึกซึ้ง แต่ใช่ว่า 2 สำนักแรกจะไม่ดีนะครับ ทั้ง สามสำนักล้วนมีข้อดีข้อด้อย ต้องใช้การศึกษาค้นคว้ามาจึงจะวางได้ถูกต้องตรงตำราเพราะแต่ละสำนักก็มีรายละเอียดปลีกย่อยในการแปลความหมายเยอะ อย่าได้ดูถูกกันไม่อย่างนั้นก็คงอยู่ไม่ได้จนถึงป่านนี้ นี่เป็นการดูฮวงจุ้ยสามสำนักใหญ่ที่โด่งดังในบ้านเรา

            แล้วอาจารย์เคนใช้สำนักไหนในการดูฮวงจุ้ย ก็ขอตอบเลยครับ อาจารย์เรียนรู้มาทั้งสามสำนักเรียกได้ว่าแตกฉานแ่ต่ในการดูฮวงจุ้ยของอาจารย์นั้นจะเน้นใช้ "วิชาหมากรุกจีน" เป็นหลักในการดูฮวงจุ้ย แล้ววิชาหมากรุกจีนใช้ในการดูดวงจะใช้ดูฮวงจุ้ยได้ด้วยเหรอ เป็นความแยบยลของวิชานี้ เพราะวิชานี้เป็นการดูธาตุของดวงกรรม อธิบายง่าย ๆ ก็คือ การดูดวงคือการดูธาตุภายในตัวเรา การดูฮวงจุ้ยคือการดูธาตุภายนอกตัวเรา พอเข้าใจแล้วใช้ไหมครับ ทำไมวิชานี้ถึงได้กว้างขวางขนาดนี้ ซึ่งทั้งสามสำนักไม่สามารถดูรู้ เข้าถึง ลึกซึ้งถึงตัวบุคคลเจ้าของผู้อาศัยได้ เพราะว่าทั้งสามสำนักนั้นอิงตำราเป็นหลักในการดูฮวงจุ้ย ส่วนวิชาหมากรุกจีนใช้การอิงบุคคลผู้อาศัยเป็นหลัก ส่วนวิชาดูดวงทั่วไปนั้นก็ไม่สามารถนำมาดูฮวงจุ้ยได้เพราะวิชาดูดวงแบบอื่นไม่ได้แยกดวงกรรม ไม่สามารถค้นหาเทวดาประจำตัวเราได้และไม่สามารถหาธาตุภายนอกตัวได้ คือดูได้เฉพาะตัวบุคคลผู้นั้น ผมจึงกล้าที่จะกล่าวว่า "ดูดวงแม่นยำ การแก้ฮวงจุ้ยก็ตรง" เพราะว่าเราเป็นผู้อาศัยบ้าน ไม่ใช่บ้านเป็นผู้อาศัยเรา จึงต้องใช้ตัวเราเป็นศูนย์กลางในการแก้ไข ปรับเปลี่ยน เพื่อให้บ้านที่เราอาศัยนี้ให้คุณกับเรา ส่งเสริมเรา เรียกว่าเราเป็นเจ้าของบ้านไม่ใช้บ้านเป็นเจ้าของเรา  ในการดูฮวงจุ้ยจริง ๆ แล้วต้องรู้เรื่องดวงหรือกรรมของเจ้าของเสียก่อนถึงจะสามารถแก้ไขฮวงจุ้ยได้ถูกต้อง อย่างอาจารย์บางท่านไม่รู้เรื่องดวงของเจ้าของบ้านแต่ไปแก้ฮวงจุ้ยให้ แล้วใช้อะไรเป็นหลักหละ อิงตำราอย่างเดียว ขวาเสือ ซ้ายมังกร หน้าหงส์ หลังเต่า ถ้าเช่นนี้ก็จะกลายเป็นฮวงจุ้ยสำเร็จรูปไป ก็แก้ไปตามตำราไม่ได้แก้ไปตามอาการเพราะไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านเขามีดวงกรรมอย่างไร แล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร คงไม่ต้องบอกนะครับ ดีตามตำราแน่นอน แต่คงไม่ค่อยดีกับเจ้าของบ้าน ส่วนในวิธีการแก้ฮวงจุ้ยนั้นอาจารย์เคนจะเน้นที่แก้เล็กก่อนเพื่อให้มีการไหลเวียนของพลังก่อน(เงิน) ให้มีเงินไหลเข้ามาก่อนค่อยไปแก้หลักใหญ่ เมื่อแก้เล็กแล้วเห็นผล เสียค่าใช้จ่ายในการแก้น้อย เจ้าของบ้านก็มั่นใจว่าการปรับฮวงจุ้ยกับอาจารย์ได้ผลดีจริง เหมือคนป่วยหนักหมอก็จะให้ยาเบาก่อน พอเริ่มทุเลา ร่างกายพื้นฟูก่อนถึงจะเพิ่มตัวยาให้แรงขึ้น ถ้าใช้ยาแรงตั้งแต่แรกจากจะหายก็กลายเป็นทรุด หนักกว่าเดิมอีก ฟังแล้วก็หน้ากลัว จากยังพอพยุงตัวได้กลับกลายเป็นทรุด อันนี้พูดถึงบางท่านที่กำลังประสบปัญหาหนัก แต่บางท่านก็ไม่ต้องแก้ไขมากเพียงไปเพิ่มให้โอกาสให้ได้มากขึ้น ได้เพิ่มขึ้น อันนี้บุญเก่าเขาดี มาหนุนส่ง พอมาเจออาจารย์ก็ดันทีเดียวพุ่งพรวดจากสิบเป็นร้อย เป็นล้าน ชีวิตก็อย่างนี้แหละครับมันเป็นกรรม กรรมเก่า กรรมใหม่ก็ปน ๆ กันนี่แหละ จะทำอะไรก็คิด พินิจ ตรึกตรองกันให้ดีเสียก่อนจะได้ไม่เสียที เสียท่าใครเขา มีปัญหายังไงก็ลองโทรปรึกษาก่อนได้ครับ ไม่เสียตังค์ ช่วยกัน ให้พ้นทุกข์ ให้สบายใจ อันไหนแนะนำได้ก็แนะนำไปครับ ไม่ได้หน้าเลือดเป็นเงินเป็นทองหมด แต่ว่าไม่เอาก็ไม่ได้ครับเพราะก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกัน เดี๋ยวจะเข้าตำราเอ็นดูเขา เอ็นเราขาด ก็เป็นสัมมาอาชีพทำเงินด้วย ทำบุญด้วย ช่วย ๆ กัน.




                                                                          กลับ