เล่าเรื่อง วิธีทำให้เงินมาอยู่กะเรา เยอะๆ

            ครั้งที่แล้วเล่าทิ้งไว้ว่าจะบอกวิธีให้เงินเดินมาหาเราไว้ วันนี้ก็จะมาสานต่อเพื่อทุกท่านจะได้ สุขขี สุขขี ร่ำรวย ร่ำรวย คนเรานี้มันแปลกชอบพาตัวให้ลำบาก คนโง่มักลำบากหาเงิน คนฉลาดเขาให้เงินมาหา ก็อย่างที่ว่าเหมือนเราไปรักคนอื่น มันก็ชีช้ำ สู้ให้คนอื่นมารักเราไม่ดีกว่าหรือ เคยได้ยินเขาว่า รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง อันนี้ได้ยินบ่อยแต่แปลไม่ถูก ข้าวเหนียวนึ่งนี่เกี่ยวกับรักข้างเดียวยังไง ก็นั่นแหละ ถ้าเขาว่าให้เอาห้าหาร มีคำสุภาษิต คำพังเพยเยอะกับเรื่องเหล่านี้ อาทิ หาเช้ากินค่ำ ปากกัดตีนถีบ มือใครยาวสาวได้สาวเอา ฝนทั่งให้เป็นเข็ม ฟังดูแต่ละอย่างเหนื่อยแทน ไม่รู้จักความลำบากแล้วจะรู้จักความสุขสบายได้อย่างไร ชิมิ ถ้าคุยให้เป็นธรรมะหน่อยก็ต้องบอกว่า รู้จักอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเข้าใจด้วย และสุดท้ายก็ต้องเข้าถึง นี่หลักศาสนา รู้จัก เข้าใจ เข้าถึง 

รู้จักเป็นเปลือก เช่นเรารู้จักศาสนาพุทธนะ ต้องทำอะไรบ้าง ต้องมีศีลห้า ทำบุญตักบาตร ทำบุญทุกเช้า เข้าวัดทุกเย็น นี่เขาเรียกว่า รู้จัก

เข้าใจเป็นแก่น ก็เช่น ทำไมต้องมีศีล ทำบุญทำไม เข้าวัดเพื่ออะไร เช่นนี้เป็นต้น เรียกว่า เข้าใจ

เข้าถึงเป็นกระพี้ เช่น เมื่อรู้ว่าศีลมีประโยชน์ต่อเราอย่างไร เราก็ยอมรับปฏิบัติเป็นปรกติวิสัย ไม่บังคับ ไม่ฝืน และไม่ลังเลสงสัยอีกต่อไป ฉะนี้เรียกว่า เข้าถึง

         เปลือกมีไว้ปกป้อง แก่นมีไว้ดำรง ตั้งมั่น กระพี้มีไว้ออกดอก ออกผล ผมว่าทุกศาสนาตั้งความประสงค์อย่างนี้เหมือนกันหมด ต่างกันที่จุดหมายปลายทางเท่านั้น ทีนี้มาว่าเรื่องของเราดีกว่า อ๋อ! อย่าคิดว่าผมจะบอกวิธีเสกเงิน เสกทอง นะครับอย่าหวังทุกอย่างต้องลงมือทำทั้งนั้นอยู่ที่ทำอย่างไร ทำน้อยแต่ได้มาก เราลองมาดูวิธียอดฮิตนะครับ

ฮอตฮิต อันดับที่1 นางกวัก เป็นสุดยอดทำมาค้าขายและเป็นที่นิยมมาก นางกวักนี่กวักเงิน กวักทองนะครับ จริงไม่จริงอย่างไรอันนี้ไม่แน่ใจครับแต่ถ้าเป็นนายกวัก(นายตำรวจ) ก็เตรียมจ่ายได้ พบเห็นได้ตามท้องถนน อันหลังนี้ไม่ปลื่มครับ นางกวักนี่สำหรับพ่อค้า แม่ค้า แล้วลูกค้าหละถ้ากวักทุกร้านกระเป๋าแห้งทันทีแต่ผมมีวิธีแก้ครับ ถ้าร้านค้ามีนางกวัก ลูกค้าก็ต้องพกขุนแผนสะกดทัพหละครับ หลับเป็นตาย ฮึ!!! ทีนี้นางกวักหลับแล้วขุนแผนจะทำอย่างไร ก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของขุนแผนละ

ต่อไปก็ต้องนี่ครับ กุมารทอง นี่ก็ช่วยเหลือทำมาค้าขาย และอื่น ๆ จิปาถะ กุมารทองนี่ไม่มีประวัติชัดเจนแต่เป็นที่รู้จัก คุ้นเคย แต่ไม่รู้ว่าเป็นลูกใครเหล่าเต้า มาจากเด้าแดนใด กุมารทองแบ่งเป็น 2 สายครับ คือแบ่งตามกำเนิดการสร้าง การปลุกเสก ถ้าอันเชิญวิญญาณเทพมาสถิต กุมารทองนี้จะนิยม อาหารทั่วไปและผลบุญ นิยมสร้างกุศล ส่วนถ้าอันเชิญวิญญาณเด็กที่ตายมาสถิต ก็จะเป็นอีกสายหนึ่ง นิยมอาหารทั่วไป ชอบบุญเหมือนกันแต่มักเกเร ชอบแกล้ง หรือทำร้ายผู้อื่น ทั้ง2สายนี้ชอบช่วยผู้คนครับ โดยเฉพาะบริษัทแฟนต้า ช่วยมากสุด เพราะแกชอบน้ำแดง ไม่รู้ทำไม น้ำชนิดอื่นก็ไม่กิน กุมารทองกินน้ำเขียว น้ำโค้ก รู้ได้เลยว่าแอบอ้าง ของปลอม

อันดับต่อไป ต้องคบเพื่อนมีสีมียศมีตำแหน่ง เพื่อนผมเป็นปลัด ชื่อขลิก ใคร ๆ ก็เรียก ปลัดขลิก ยศไม่ใหญ่ใคร ๆ คบแล้วรวย ช่วยค้าขาย เสน่ห์ เมตตามหานิยม ชอบไว้ผมยาวมาถึงคอ แสกกลาง ไม่หวีแป๋ มีที่มาจากลัทธิ พราห์ม ฮินดู อะไรทางโน้น น่าจะจำลองมาจากศิวะลึงค์อะนะ อันนี้ขอเล่าเรื่องประสบการณ์ที่พบเจอมาประกอบละกันครับ มีน้องที่รู้จักกันต้องการซื้อโทรศัพย์มือถือใหม่ ผมก็แนะนำให้ไปซื้อที่ร้าน ๆ หนึ่งจะขายถูกกว่าร้านทั่วไป ผมก็เลยพาแกไป พอไปถึงผมก็พาไปยังร้านที่ว่าแต่หาไม่เจอซักที่เดินวนอยู่หลายรอบ พอดีเดิน ๆ อยู่ก็มาสะดุดเข้ากับร้านหนึ่ง เป็นตู้กระจกตั้งเล็ก ๆ แต่ที่สะดุดคือเหมือนมีแรงดึง ผมเหลือบไปเห็นเขามีปลัดขลิกสีดำอันเล็ก ๆ วางไว้ในตู้ ก็เลยชวนน้องเข้าไปถามราคา ถามไปถามมาดันซื้อเลย ที่สำคัญพอซื้อเสร็จ ถัดไปหน่อยเดียวก็เจอร้านที่เดินหา ทั้งเรียกเข้าร้านแถมยังมีบังตาอีก นี่ขนาดผมรู้ว่าร้านอยู่ตรงไหนนะถ้าน้องเขามาเองก็ว่าไปอย่าง ของเขาแรงจริง ๆ

หลัก ๆ ก็จะมีอยู่ประมาณนี้ ส่วนอื่น ๆ ที่มีก็เช่น ปลาตะเพียน ไซดักปลา ยันต์ ฮู้ ส่วนที่น่าสนใจก็ เจ้าเงาะป่าจำลอง ของหลวงพ่ออะไรซักอย่างนี่แหละจำชื่อไม่ได้ ที่จำลองเป็นรูปเงาะป่าก็คงมาจากเรื่องสังข์ทอง ตอนเจ้าเงาะไปหาปลาหาเนื้อ โดยเจ้าเงาะได้ท่องมนต์จินดามณี ปลาก็มารวมกันแน่นจนสามารถหยิบตักเอาได้ตามใจชอบ ใครมีแล้วก็ถือว่าโชคดี ถ้าใครมีหลายองค์แบ่งผมบ้างก็ได้นะครับ ตอนนี้ผมมีมังคุดแล้ว

           ลำดับต่อไปก็จะเล่าวิธีช่วยอีกแบบที่หลายคนรู้จักและคุ้นเคยดีก็คือ มนต์คาถา มีเยอะครับมากมาย ผมก็จะคัดเอาแต่ที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังจะเน้นเกี่ยวกับ ค้าขาย ร่ำรวย เป็นหลักนะครับ การท่องมนต์ให้ได้ผลคือต้องมีสติกำกับ ผลมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับสติ สมาธิของเรา

คาถาเงินล้าน หลวงพ่อฤษีลิงดำ ผู้ริเริ่มวิชามโนมยิทธิ

ตั้ง นะโม ๓ จบ
สัมปจิตฉามิ  นาสังสิโม
พรหมมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ
พรมหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม
มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม
มิเตพาหุหะติ
พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม
สัมปติฉามิ
เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ
ตัวคาถาว่าหมด สวด 9 จบ
ความหมาย
สัมปจิตฉามิ คาถาสนองกลับ
นาสังสิโม คาถาพระพุทธกัสสป
บทแรก "พรหมมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ" อันนี้ตัดอุปสรรคที่ลาภจะมาแต่เขามาบอก ว่ามีผลแน่นอน คือว่า แกจะไม่ยอมให้ลูกแกจน พูดง่าย ๆ ก็แล้วกัน พระพุทธเจ้า ก็ทรงยืนยันบอกว่า ให้ หมด
บทที่สอง "พรมหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม" คาถาบทนี้เป็นคาถาเงินแสนของท่าน
บทที่สาม "มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม" บทนี้เป็นคาถาปลุกพระวัดพนัญเชิง
บทที่สี่ "มิเตพาหุหะติ" เป็นคาถาเงินล้าน
บทที่ห้า "พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มามีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม" เป็นคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า
บทที่หก "สัมปติฉามิ" บทนี้เป็นบทเร่งรัดบทสุดท้าย
บทที่เจ็ด "เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ" พระปัจเจกพุทธเจ้า มาบอกหลวงพ่อเมื่อ พ.ย. 33 เป็นภาษาโบ ราณ แต่เทียบกับภาษาไทยอ่านได้อย่างนี้ เป็นคาถามหาลาภ มีผลยิ่งใหญ่มาก ทั้งหมดนี้ต้องสวดเป็นบท เดียวกัน บูชาเรื่อย ๆ ไป การบูชาถ้าบูชาเฉย ๆ มันเป็นเบี้ยต่อไส้
คาถา ว่า 9 จบ หลวงพ่อบอกว่า ถ้าว่า 9 จบเป็นเบี้ยต่อไส้ จะว่ามากกว่านั้นก็ได้ แต่ถ้าท่องจนเป็นสมาธิหรือได้ญาณจะได้ผลดีมาก อย่าลืมถ้าอยากจะให้ได้ผลต้องท่องจนเป็นสมาธิและใส่บาตรทุกวัน ถ้าไม่ว่างก็ให้อธิฐานเอาเงินใส่บาตร ใส่ขันที่บ้าน จำนวนที่ใส่ไม่ได้ระบุทำตามกำลัง ทำทุกวันพอว่างเมื่อไรก็เอาไปถวายวัด

              ในการสวดมนต์ทุกบทไม่ว่าจะบูชาองค์ใดก็ตามให้ใช้ความรู้สึกส่งเข้าไปในบทสวดด้วยคือ นึกถึง คิดถึง จะทำให้มีผลในการสวดมากและได้ผลดี ขออธิบายเพิ่มเตินหน่อยจะได้เข้าใจ และเข้าถึง เหมือนกับการเย็บผ้าต้องใช้ความตั้งใจ ต้องประสานกันทั้งสายตา มือ และจิตใจจดจ่อ เมื่อท่านทำบ่อย ๆ จนชินท่านทั้งหลายก็จะเป็นผู้ที่เข้าถึงพุทธะ ต่อไปท่านทั้งหลายก็จะได้รู้ว่าทำบุญย่อมได้บุญ ทำบาปกรรมย่อมสนอง ท่านจะรู้สึกได้ มองเห็นได้ เหตุสิ่งใดเกิดกับตัวเรา กรรมก็จะบอกเหตุแห่งกรรมนั้น ๆ นี่ไม่ใช่ความเป็นทิพย์อย่างที่คนอื่น ๆ เขาได้กันนะครับ อย่างหูทิพย์ ตาทิพย์ แต่น่าจะเป็นใจทิพย์มากกว่า ไม่สามารถกำหนดให้รู้ เห็นได้แต่สามารถรับรู้ได้ รู้เหตุบางประการล่วงหน้าได้ ถ้าอธิฐานไว้สามารถรับรู้ได้ เป็นระดับเอาตัวรอดจากนรกได้ ส่วนจะไปไกลไปสูงขนาดไหนก็อยู่ที่ก้าวต่อไป ว่าคุณจะก้าวไปทางไหนแบบไหน เพราะพุทธะสูงหนึ่งคืบ มารสูงหนึ่งศอก
เรื่องคาถายังมีอีกเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็นคาถามหาลาภ มนต์จินดามณี คาถาโชคลาภ ค้าขาย หรือ คาถาขอหวย ฯ แต่ผมว่าอย่าเอามาว่าเล่นดีกว่า ตอนแรกก็กะจะบอกให้หมดแต่พอนึกไปนึกมามันจะกลายเป็นโลภไป ผิดวัตถุประสงค์อย่างแรง ทุกอย่างต้องใช้ปัญญานำ ต้องทดสอบ ทดลองก่อน แล้วค่อยตามด้วยศรัทธา ผลที่ได้จะช้ากว่าพวกที่มีศรัทธานำ พวกนี้จะได้ไว แต่ข้อเสียคือจะหลงได้ง่าย

                ต่อไปเราก็จะมาว่ากันอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นรูปเคารพ รูปสมมุติเทพ
อันดับแรกนำเสนอองค์พระพิฆเณศ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ใครบูชาองค์ท่านลาภผลพูนทวี ไม่ว่าจะเป็นปางไหนก็ได้รับพรแห่งความสำเร็จนี้เหมือนกันหมด มีคาถาบูชาว่า

โอม ศรี คเณศายะ นะมะหะ 
(โอม ชรี กาเนชายา นะมะฮ์)

องค์พระพิฆเณศนี้เป็นเทพเจ้ามาจากลัทธิพราหม ฮินดู แต่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกลักษณะองค์ท่านมีหัวเป็นช้างมีงาแต่หักไปข้างหนึ่ง ลักษณะร่างกายแบบมนุษย์ อ้วนท้วนสมบูรณ์ มีพาหนะคือหนู นักร้อง นักแสดง และผู้ค้าขาย พาณิชย์ นิยมบูชาองค์ท่านมาก เพื่อให้เกิดผลสำเร็จสมบูรณ์ บริบูรณ์ มีชื่อเสียงโด่งดัง ลาภผลพูนทวี เทพเจ้าแห่งศาสตร์และศิลปทุกแขนง

องค์ต่อไป ท้าวเวสสุวรรณ หรือ ไฉ่ชิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งทรัพย์ สมบัติใด ๆ ในโลกาข้าผู้นี้เป็นผู้ดูแลรักษา สถิตประจำทิศเหนือของสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกาเป็นเทพเจ้าแห่งยักษ์และภูตผีปีศาจและความมั่งคั่งไพบูลย์ทั้งหลาย ถึงแม้หน้าตาจะไม่สวยสดงดงามเป็นหน้าพระหน้าพรหม ใจดีครับ เป็นเจ้าแห่งภูติผี ยักษ์ เขาเรียกว่าการใช้โจรจับโจร ผีจับผี มึงดุร้าย น่ากลัวขนาดไหนเจอท้าวท่านเข้าละก็กลายเป็นหมาเหงาไปเลยที่เดียว แต่ท่านก็มีภาคที่เป็นเทพบุตรอยู่แต่เราไม่นิยม นิยมในรูปของยักษ์มากกว่า คาถาบูชาท่านว่าดังนี้

ตั้งนะโม ๓ จบ
อิติปิโส ภะคะวา ยมราชาโน ท้าวเวสสุวัณโน มรณังสุขัง อหังสุคโต นโมพุทธายะ ท้าวเวสสุวัณโน จตุมหาราชิกา ยักขพันตาภัทภูริโต เวสสะพุสะ พุทธังอรหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวัณโน นโมพุทธายะ.
 
แล้วพวกยักษ์มาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร ก็รวม ๆ ว่าก็คนเราทั่วไปนี่แหละ ยักษ์ในที่นี้ไม่ได้หมายแต่พวกกินเลือดกินเนื้ออย่างเดียวแต่รวมถึงยักษ์ที่มีจิตใจดีแต่หน้าตาเป็นยักษ์ สาเหตุเพราะว่าเวลาทำบุญสุนทานมักปนด้วยความโกรธ โมโห หงุดหงิด ทำให้การกุศลแปดเปื้อนจึงเป็นผลทำให้หน้าตาเป็นยักษ์ได้  เราสามารถสังเกตุได้จากคนเราเมื่อมีความโกรธหน้าตาก็จะเหี้ยมเกรียม ดุร้าย ตาขวาง เลือดสูบฉีดหัวใจเต้นแรง ตอนทำบุญกุศลทุกประการควรวางใจให้สะอาด บริสุทธิ์ ระงับโกรธเกิดมาทุกชาติ หน้าตา ผิวพรรณก็จะเปล่งปลั่ง สวยงาม เป็นหนุ่มหล่อ สาวสวยทุกถพทุกชาติ ๆ ไป.


                                                                     กลับ